บทที่๒วิธีการสอนและเทคนิคและการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเทคนิคผึ้งแตกรัง
เทคนิคผึ้งแตกรังเป็นเทคนิคการสอนในรูปแบบการจัดกิจกรรมโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่ง
กอบวิทย์พิริยาวัฒน์ (http://www slideshare.net/teacherkobwit) ได้กำหนดขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ไว้
ดังนี้ 1) ครูเลือกเนื้อหา หน่วยการเรียนรู้ และจัดแบ่งเนื้อหาเป็นหน่วยย่อยๆ 2) ครูจัดศูนย์การเรียนรู้
เอาไว้ที่ต่างๆ 3) แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม โดยให้คละเด็กเก่ง ปานกลาง อ่อน 4) แต่ละกลุ่มวางแผน
มอบหมายงานให้เพื่อสมาชิกรับผิดชอบในการศึกษาความรู้จากศูนย์การเรียนต่างๆ 5) ตัวแทนกลุ่มไป
ศึกษาความรู้จากฐานการเรียนรู้ที่ได้รับมอบหมาย 6) ตัวแทนกลุ่มที่ไปศึกษาความรู้จากฐานการเรียนรู้
ต่างๆ ร่วมกันจัดทำแผนผังความคิดเพื่อสรุปสาระสำคัญ 7) ตัวแทนกลุ่มกลับไปสู่กลุ่มเดิม และนำเอา
แผนผังความคิด สรุปสาระสำคัญมาอธิบายให้เพื่อนในกลุ่มฟัง 8) ให้แต่ละกลุ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับ
สาระสำคัญความรู้จากฐานต่างๆ 10) กลุ่มนำคำถามเหล่านี้ซักถามเพื่อสมาชิกในกลุ่มเพื่อทบทวน
ความรู้ความเข้าใจ 11) กลุ่มนำคำถามเหล่านี้ไปให้กลุ่มอื่นหาคำตอบและเฉลย
จะเห็นได้ว่าเทคนิคผึ้งแตกรัง มีลักษณะการจัดกิจกรรม ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ( อาภรณ์ ใจ
เที่ยง. 2556 ) ในด้าน Active Learning ที่ผู้เรียนเป็นผู้กระทำด้วยตนเอง ผู้เรียนได้ใช้ประสาทสัมผัส
ต่าง ๆให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างแท้จริง ด้าน Construct เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนได้ค้นพบ
สาระสำคัญหรือองค์การความรู้ใหม่ด้วยตนเองจากการรวมกลุ่มศึกษาด้าน Resource เป็นกิจกรรมที่
ผู้เรียนได้เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆที่ครูผู้สอนจัดเตรียมให้ ด้าน Thinking เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริม
กระบวนการคิด ทั้งการคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์เป็นแผนที่ความคิดได้ ด้าน Happiness เป็น
กิจกรรมที่ผู้เรียน ได้เรียนอย่างมีความสุข มีปฏิสัมพันธ์กัน ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ด้าน
Participation เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนกำหนดงาน วางเป้าหมายร่วมกัน และมี
โอกาสเลือกทำงานหรือศึกษาค้นคว้าในเรื่องที่ตรงกับความถนัดความสามารถ ความสนใจของตนเอง
ด้าน Individualization เป็นกิจกรรมที่ผู้สอนให้ความสำคัญแก่ผู้เรียนในความเป็นเบุคคล ผู้สอน
ยอมรับในความสามารถ ความคิดเห็น ความแตกต่างระหว่างบุคคล ผูสอนยอมรับในความสามารถ
ความคิดเห็น ความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองให้เต็มศักยภาพ
ด้าน Good Habit เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนด้านพัฒนาคุณลักษณะนิสัยที่ดีงาม เช่นความรับผิดชอบ ความมี
น้ำใจ ความมีระเบียบวินัย มีนิสัยที่ดีในการท างานร่วมกับผู้อื่นได้ ลักษณะต่าง ๆ เหล่านี้เป็นลักษณะที่
สำคัญของเทคนิคผึ้งแตกรังที่เหมาะจะนำไปใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญใน
หน่วยการพูดในโอกาสต่าง ๆ
ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้
1. ครูเลือกเนื้อหา 1 หน่วยการเรียนรู้และจัดแบ่งเนื้อหาเป็นหน่วยย่อย ๆ
2. ครูจัดศูนย์การเรียนรู้เอาไว้ที่ต่าง ๆ
3. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 5-7 คน โดยให้คละเด็กเก่ง ปานกลาง อ่อน
4. แต่ละกลุ่มวางแผนมอบหมายให้เพื่อนสมาชิกรับผิดชอบในการศึกษาความรู้จากศูนย์การเรียนต่าง ๆ
5. ตัวแทนกลุ่มไปศึกษาความรู้จากฐานการเรียนรู้ที่ได้รับมอบหมาย
6. ตัวแทนกลุ่มที่ไปศึกษาความรู้จากศูนย์การเรียนต่าง ๆ ร่วมกันจัดทำแผนผังความคิดเพื่อสรุปสาระสำคัญ (Concept Mapping)
7. ตัวแทนกลุ่มกลับไปสู่กลุ่มเดิม และนำเอาแผนผังความคิดสรุปสาระสำคัญมาอธิบายให้เพื่อนในกลุ่มฟัง
8. ให้แต่ละกลุ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับสาระสำคัญความรู้จากฐานต่าง ๆ กลุ่มละ 20 คำถาม
9. กลุ่มนำคำถามเหล่านี้ซักถามเพื่อนสมาชิกในกลุ่มเพื่อทบทวนความรู้ความเข้าใจ
10. กลุ่มนำคำถามเหล่านี้ไปให้กลุ่มอื่นหาคำตอบและเฉลย
2. เทคนิคโครงงาน
ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้
1. ครูกำหนดหน่วยการเรียนรู้ที่จะทำการสอนนักเรียน 1 หน่วยการเรียนรู้ เช่น อาชีพในชุมชน
2. ระดมความคิดนักเรียนถึงประเด็นหลัก ๆ ของเรื่องนั้น
3. แบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ 5-7 คน ให้ศึกษารายละเอียดในแง่มุมต่าง ๆ ของประเด็นหลักกลุ่มละ 1 ประเด็น
4. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนการศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่กลุ่มได้เลือก โดยจัดทำแผนผังความคิด โดยมีประเด็นหลักดังนี้
- คำถาม
- แหล่งข้อมูล
- วิธีการสืบค้นข้อมูล
- เครื่องมือรวบรวมข้อมูล
5. ให้นักเรียนนำแผนผังความคิดที่ใช้ในการวางแผนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
6. ครูให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมแผนผังความคิดการวางแผนการสืบค้นของนักเรียน
7. นักเรียนวางแผนกำหนดขั้นตอนการดำเนินงานในการสืบค้นข้อมูล
8. นักเรียนแต่ละกลุ่มดำเนินการตามแผนที่วางไว้
9. กลุ่มรวบรวมข้อมูลการสืบค้นจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ สรุปข้อมูลเพื่อตรวจสอบดูว่าได้คำตอบตามข้อคำถามที่ตั้งไว้ได้ครบหรือยัง
10. แต่ละกลุ่มสรุปผลการสืบค้นข้อมูล และจัดทำเอกสารรายงาน
11. กลุ่มเตรียมการเพื่อนำเสนอผลงานโดยจัดป้ายนิเทศ และจัดทำเอกสารสรุป
12. จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงาน
13. แต่ละกลุ่มกำหนดคำถามเพื่อประเมินผลเกี่ยวกับสิ่งที่กลุ่มได้ไปสืบค้น
14. กลุ่มต่าง ๆ ตอบคำถามของกลุ่มอื่น ๆ เพื่อการประเมินผล
3. เทคนิคแรลลี่เพื่อการเรียนรู้ (Learning by Rally)
ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้
1. ครูเลือกเนื้อหาจากหลักสูตร 1 หน่วยการเรียนรู้
2. ครูจัดแบ่งเนื้อหาเป็นหน่วยย่อย ๆ เพื่อนำไปกำหนดเป็นกิจกรรมการเรียนรู้แต่ละจุดพักให้น้ำ
3. ครูสำรวยเส้นทางการ Rally และกำหนดจุดพักให้น้ำ
4. แบ่งกลุ่มนักเรียน 5 – 7 คน ประชุมชี้แจงการทำกิจกรรม Rally
5. นักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนแบ่งความรับผิดชอบให้สมาชิกกลุ่ม
6. ดำเนินการ Rally จักรยานไปสู่เป้าหมาย
7. ครูให้นักเรียนร่วมกันทำกิจกรรมสนุกสนานเพื่อผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อย
8. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรมแต่ละจุดพักและซักซ้อมความเข้าใจให้กับสมาชิกในกลุ่ม
9. ครูเขียนข้อคำถามเพื่อวัดความรู้ของนักเรียนและนำคำถามเหล่านั้นไปแขวนไว้ที่ต้นไม้ 10. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมาจับคำถามจากต้นไม้กลุ่มละ 2 คำถาม
11. กลุ่มร่วมกันตอบคำถามที่กลุ่มได้รับไป
12. แต่ละกลุ่มนำเสนอคำถามต่อกลุ่มใหญ่
13. Rally จักรยานกลับเมือง
หวังว่า 3 เทคนิคที่กล่าวไปแล้วนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อเหล่าคุณครูผู้มีความรักและหวังดีต่อลูกศิษย์ทั้งหลาย สามารถนำไปปรับ ประยุกต์ใช้ได้ตามความเหมาะสม…แล้วมาติดตามกันต่อในตอนต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.slideshare.net/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น