ความเข้าใจผู้เรียนและการเรียนรู้
การเรียนรู้เป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ถาวร เนื่องจากการฝึกปฏิบัติหรือประสบการณ์การเรียนรู้ขึ้นอยู่กับ 3 ประการคือ ประการแรกความสามารถของผู้เรียน ประการที่สอง ระดับของแรงจูงใจ และประการสุดท้าย ธรรมชาติของภาระงานการเรียนรู้มีกระบวนการดังนี้ คือ 1. แรงจูงใจภายในทำให้ผู้เรียนรับความคิดง่าย 2. เป้าประสงค์ทำให้มีสำคัญได้ถึงความต้องการจำเป็นในสิ่งที่เรียน 3. ผู้เรียนเสาะหาวิธีการที่เหมาะสมในการแก้ปัญญา 4. ผลของความก้าวหน้าจากการเลืิอกแก้ปัญหาที่ลดความตึงเครียด 5. การขจัดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ขอบเขตของการเรียนรู้สามประการ
บลูมและเพื่อนๆเป็นที่รู้จักกันดีในการแบ่งการเรียนรู้เป็นสามประเภท คือ 1.พุทธิพิสัย (Cognitive Domain)(พฤติกรรมด้านสมอง)เป็นพฤติกรรมเกี่ยวกับสติปัญญา ความรู้ ความคิด ความเฉลียวฉลาด 2.จิตพิสัย (Affective Domain)( พฤติกรรมด้านจิตใจ) ค่านิยม ความรู้สึก ความซาบซึ้ง ทัศนคติ ความเชื่อ ความสนใจและคุณธรรม 3.ทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) (พฤติกรรมด้านกล้ามเนื้อประสาท) พฤติกรรมที่บ่งถึงความสามารถในการปฏิบัติงานได้อย่างคล่องแคล่วชำนิชำนาญ
องค์ประกอบการเรียนรู้
ประกอบด้วยสิ่งสำคัญห้าประการคือ 1.ผู้เรียน 2.บทเรียน 3.วิธีการเรียนรู้ 4.การถ่ายโยงการเรียนรู้ 5.องค์ประกอบต่างๆทั้งกายภาพและจิตใจ
องค์ประกอบที่ส่งผลต่อการเรียนรู้
ได้แก่ องค์ประกอบด้านสติปัญญา และองค์ประกอบด้านที่ไม่ใช้สติปัญญา
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเป็นการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ของผู้เรียน ตอบสนองต่อความต้องการต่างๆ เป็นการเรียนรู้อย่างแท้จริง เรียนรู้อย่างมีความสุข และพัฒนาการทักษะในด้านต่างๆได้เต็มศักยภาพ
แนวคิด
1.ผู้เรียนต้องรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของตน
2.เนื้อหาวิชามีความสำคัญและมีความหมายต่อการเรียน
3.การเรียนรู้จะประสบผลสำเร็จถ้าผู้เรียนมีส่วนร่วมด้วย
4.สัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้เรียน การมีปฏิสัมพันธ์
5.ครูเป็นมากไปกว่าผู้สอน ครูเป็นทั้งทรัพยากรบุคคล เป็นแหล่งการเรียนรู้ เป็นผู้อำนวยความสะดวก
6.ผู้เรียนมีโอกาสเห็นตนเองในแง่มุมที่แตกต่างจากเดิม
7.การศึกษาเป็นพัฒนาประสบการณ์การเรียนรู้ของผู้เรียนหลายๆด้าน
8.ผู้เรียนได้เรียนรูวิธีการทำงานอย่างเป็นกระบวนการ
9.การนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้
10.การเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางก่อให้เกิดประชาธิปไตย
11.การเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางสอนให้ผู้เรียนรู้จักวิพากษ์วิจารณ์
12.การเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางทำให้เกิดการนำตนเอง
13.การเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์
14.การเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางก่อให้เกิดมโนทัศน์ของตน
15.การเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเป็นการเสาะแสวงหาความสามารถพิเศษของผู้เรียน
16.การเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเป็นวิธีการที่ดีจะช่วยดึงศักยภาพของผู้เรียน
รูปแบบการเรียนรู้และวิธีการจัดการเรียนการสอน
ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง มีรูปแบบการเรียนรู้ วิธีการและการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลายกว่าคือรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น การเรียนรู้แบบสืบสวน การเรียนรู้การใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม การเรียนรู้แบบโครงงาน การเรียนรู้แบบกระบวนการทางปัญญาการเรียนรู้โดยใช้แผนการออกแบบประสบการณ์ วิธีการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย เช่น เกมการศึกษา สถานการณ์จำลอง กรณีตัวอย่าง บทบาทสมมติ การแก้ปัญหา โปรแกรมสำเร็จรูป ศูนย์การเรียน ชุดการเรียน คอมพิวเตอร์
การสอนโดยใช้วิธีบทบาทสมมติ
เป็นการสอนที่จะช่วยให้หาลักษณะเฉพาะของตนในสังคม และรู้จักแก้ไขปัญหาด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มสังคมยอมรับให้บุคคลทำงานด้วยกันเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ของสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาระหว่างบุคคลและพัฒนาวิถีประชาธิปไตยเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ
การสอนโดยอาศัยการเรียนบนพื้นฐานของปัญหา
จะช่วยพัฒนาการคิดอย่างเป็นระบบในการคิดแก้ปัญหา
การเรียนรู้แบบร่วมมือกันในชั้นเรียนบูรณาการ
เนื้อหาในส่วนนี้มุ่งทบทวนวิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือกัน
รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ
ได้แก่ แบบรวมหัวกันคิด แบบร่วมมือ แบบประสานความรู้ แบบประชุมโต๊ะกลม
การสอนด้วยวิธีการคิดแบบหมวกหกใบ
ทำให้ผู้เรียนมีหลักในการจำแนกความคิดออกเป็น 6 ด้าน ทำให้สามารถแก้ปัญหาและตัดสินใจด้วยการคิดทีละด้านอย่างเป็นระบบ เป็นการเพิ่มศักยภาพให้ทักษะการคิด ทำให้ไม่คิดกระโดดไปกระโดดมา หรือคิดพร้อมกันทุกอย่างในเวลาเดียวกัน ซึ่งทำให้สับสนใช้เวลานาน และสรุปไม่ได้อ้างอิง
พิจิตรา ธงพานิช. วิชาการออกแบบและการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน. พิมพ์ครั้งที่ 3 นครปฐม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์, 2560.
แผนผังความคิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น